หุ่นยนต์รูดี้ คู่หูยุคใหม่ของผู้สูงวัยสายไอที

ในสังคมยุคปัจจุบัน เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการทำงาน หรือการอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้มีกลุ่มนักวิจัยและพัฒนาในหลายๆ ประเทศได้มีการนำมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้เทคโนโลยีเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงอย่างมากว่าจะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกอนาคต คงจะหนีไม่พ้นเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ที่กำลังอยู่ในกรณีศึกษาของหลายๆ ประเทศทั่วทุกมุมโลก

ล่าสุดทางสหรัฐอเมริกา  ได้มีการนำแนวคิดการพัฒนาชีวิตด้านความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ไปต่อยอดในการคิดค้นและพัฒนาหุ่นยนต์ ที่จะคอยช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้สูงอายุขึ้นสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยได้ให้กำเนิดหุ่นยนต์อัจฉริยะที่จะเข้ามาช่วยดูแลสังคมผู้สูงวัย โดยมีชื่อเรียกว่า หุ่นยนต์รูดี้

แนวคิดของการพัฒนา หุ่นยนต์รูดี้ นั้น เกิดขึ้นมาจากการเล็งเห็นถึงปัญหาในด้านการดูแลผู้สูงวัยที่เกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก เนื่องจากในหลายๆครั้ง บรรดาลูกหลานต่างก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูคนในครอบครัว หรือนำมาเป็นค่ารักษาเพื่อดูแลผู้สูงอายุ จึงทำให้ไม่มีเวลามากนักที่จะมาดูแลหรือคอยอยู่เป็นเพื่อนกับผู้สูงอายุได้ตลอดทั้งวัน

ดังนั้น หุ่นยนต์รูดี้ จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้โดยง่าย และราคาไม่สูงจนเกินไป โดยออกแบบให้มีคุณสมบัติที่จะสามารถพูดคุยสนทนาเพื่อคลายเหงา สร้างความบันเทิงและร่วมกิจกรรมต่างๆกับผู้สูงอายุ และยังสามารถคอยให้ความช่วยเหลือได้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ หุ่นยนต์รูดี้ จะคอยดูแลเรื่องเวลาการรับประทานอาหารและการทานยาอย่างเคร่งครัด ช่วยผู้สูงวัยในเรื่องของการจดจำพฤติกรรมในการวางของใช้ต่างๆภายในบ้าน อีกทั้งยังคอยช่วยจดจำตารางการใช้ชีวิตกับตารางการนัดหมายต่างๆ ของผู้ใช้งานอย่างแม่นยำโดยไม่ต้องมาคอยกังวลภายหลัง

คลิฟ กลายเออร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทที่คอยดูแลผู้สูงอายุในอเมริกา ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตัวเขาได้มีโอกาสพบกับกลุ่มทีมงานผู้คิดค้นและพัฒนา หุ่นยนต์รูดี้ จึงเกิดไอเดียในการนำหุ่นยนต์ที่จะช่วยดูแลผู้สูงอายุไปให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการ โดยมองว่า หุ่นยนต์รูดี้ จะสามารถช่วยในการฟื้นฟูสภาพจิตใจให้แก่ผู้สูงอายุได้เป็นอย่างมาก

นักธุรกิจหลายๆ คนอาจให้ความกังวลว่า หุ่นยนต์รูดี้ จะเข้ามาทำให้เกิดแข่งขันขึ้นในสายงานอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุและทำให้เกิดการตกงานเป็นจำนวนมากหรือไม่ แต่จริงๆแล้ว หุ่นยนต์รูดี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องการดูแลงานบ้านหรืองานที่มนุษย์ทำเลย แถมยังถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถช่วยเหลืองานของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

หากในอนาคตมีการนำ หุ่นยนต์รูดี้ ไปใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ประเทศ คงจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้มีสุขภาพชีวิตที่ดี ช่วยลดปัญหาการทะเลาะกันของคนในครอบครัว และยังช่วยให้ลูกหลานผ่อนคลายความกังวลในเรื่องของภาวะทางจิตใจของผู้สูงอายุ เพราะ หุ่นยนต์รูดี้ จะกลายมาเป็นเพื่อนของคนที่เรารัก จนบางครั้งเราอาจต้องกลายเป็นกังวลว่า ผู้สูงอายุอาจจะไม่ต้องการเรามาดูแลแล้วก็ได้

หุ่นยนต์นักเสิร์ฟ เครื่องมือรักษาสภาพจิตใจของผู้ป่วยอัมพาต

จากการเปิดเผยข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า โรคอัมพาต ถือเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่นำไปสู่การเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และพบว่ามีอัตราเฉลี่ยถึงร้อยละ 30 ที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตจากโรคนี้ ร้อยละ 40 ของผู้ป่วยจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้หรือเคลื่อนไหวได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และจะมีเพียงแค่ร้อยละ 30 ของผู้ป่วยโดยเฉลี่ย ที่มีโอกาสหายหรือมีอาการที่ดีขึ้นได้ แต่ต้องหมั่นทานยาควบคุมตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

                หากเจาะลึกลงไปกว่านั้น จะพบว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยโรคอัมพาต ไม่สามารถได้รับผลการรักษาที่เป็นไปในทิศทางที่ดีเท่าที่ควร มาจากสภาพจิตใจที่เกิดความท้อแท้ต่อการรักษาที่ต้องใช้เวลานาน และเห็นผลการรักษาค่อนข้างช้า เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วดั่งในอดีต จึงเป็นเหตุให้ผู้ป่วยไม่พยายามที่จะทำกายภาพบำบัด หรือทานยาตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัด นำมาซึ่งผลการรักษาที่ไม่สามารถพลิกฟื้นสภาพร่างกายและจิตใจของตัวผู้ป่วยให้กลับมาดีได้ดังเดิม

                แต่ล่าสุด มีกลุ่มผู้ที่สามารถคิดค้นหุ่นยนต์ที่สามารถควบคุมได้โดยผู้ป่วยอัมพาตสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอาจเรียกเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ง่ายๆ ว่า หุ่นยนต์นักเสิร์ฟ และความพิเศษของเทคโนโลยีใหม่ชิ้นนี้คือ สามารถควบคุมหุ่นยนต์ให้เคลื่อนไหวได้จากระยะไกลผ่านการใช้สายตาในการพิมพ์ข้อความเพื่อออกคำสั่งต่างๆ ที่จะสามารถควบคุมหุ่นยนต์ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังสามารถมองภาพได้ผ่านกล้องที่ถูกติดตั้งอยู่ในตัวหุ่นยนต์ ทำให้ผู้บังคับรู้สึกเหมือนได้เคลื่อนไหวอยู่ในอีกสถานที่หนึ่งเลยทีเดียว

                โดยเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 ได้มีการเปิดร้านคาเฟ่ ดอว์น เวอร์ชันเบต้า ขึ้นในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทดลองนำเอา หุ่นยนต์นักเสิร์ฟ มาใช้งานจริงๆ โดยถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงทดลอง แต่ก็มีกลุ่มผู้ให้ความสนใจมากมายที่ได้มาลองใช้บริการที่คาเฟ่แห่งนี้ ทางร้านได้จ้างผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาตมาทำงานเป็นพนักงานคอยควบคุมคน และจ่ายค่าจ้างเป็นค่าแรงขั้นพื้นฐานตามกฎหมายของญี่ปุ่นในขณะนั้น และในปัจจุบันได้ทำการปิดปรับปรุงเป็นการชั่วคราว เพื่อที่จะนำผลที่ได้จากการทดลองไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น โดยจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งในปี 2020

                ถ้าถามว่าสิ่งสำคัญของ หุ่นยนต์นักเสิร์ฟ อยู่ที่รายได้ที่เข้ามาสู่ร้านหรือไม่ ก็คงไม่ใช่ เพราะด้วยค่าจ้างที่จ่ายให้เป็นค่าแรงพื้นฐานของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเพียงแค่จ้างพนักงานทั่วไป ก็น่าจะมีกลุ่มคนที่สนใจเข้ามาสมัครงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่คาเฟ่อยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ การได้เปิดประสบการณ์การเคลื่อนไหวในมุมมองที่แตกต่างให้แก่ผู้ป่วยโรคอัมพาต และช่วยเยียวยาสภาพจิตใจผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต ให้สามารถที่จะดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีความหวังในการรักษาโรคอัมพาตให้กลับมามีอาการที่ดีขึ้น และไม่เพียงแค่เรื่องการประกอบอาชีพเท่านั้น แต่ หุ่นยนต์นักเสิร์ฟ ยังสามารถที่จะนำมาเป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้ผู้ป่วยอัมพาตได้ใช้ชีวิตดั่งที่ใจต้องการได้อีกครั้งในรูปแบบเสมือนจริง

หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยง เทรนด์ใหม่ในโลกอนาคต

สัตว์เลี้ยงถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมนุษย์เป็นอย่างมาก ตั้งแต่อดีตเราเลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิต คือ การเลี้ยงไว้เพื่อล่าสัตว์ เลี้ยงไว้เผื่อเฝ้าฝูงแกะ หรือเลี้ยงไว้เพื่อนำทาง แต่ในปัจจุบัน การเลี้ยงสัตว์มีวัตถุประสงค์เปลี่ยนไป หลาย ๆ ครั้งสัตว์เลี้ยงสามารถนำมารักษาอาการทางจิตได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า เพราะสัตว์เลี้ยงสามารถตอบสนองความต้องการทางด้านความรักให้กับคนได้ ด้วยความซื่อสัตย์ และน่ารัก จะทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกเพลิดเพลิน และมีความสุขไปในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงยังช่วยให้เราเป็นคนมีระเบียบวินัยมากขึ้น ทำให้เราได้ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะผู้เลี้ยงจะรู้สึกว่าตัวเองมีสิ่งที่ต้องดูแลเพิ่มมากขึ้น ต้องพาไปเดินเล่น วิ่งเล่น ต้องทำความสะอาดกรง หรือการต้องตื่นมาทำอาหารให้สัตว์เลี้ยง แต่การเลี้ยงสัตว์ไม่สามารถที่จะทำได้ทุกคน เนื่องจากข้อจำกัดในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู เวลา หรือ การแพ้ขนสัตว์ จึงมีการคิดนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาหลาย ๆ ด้านสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ นั่นคือ หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงในอนาคต

                ในอนาคตสัตว์เลี้ยงมีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน เพราะการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตนั้น มีข้อจำกัดมาก และอาจจะกลายเป็นปัญหาในระยะยาวสำหรับผู้เลี้ยง นวัตกรรมหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการหาเพื่อนแท้ และต้องการความสุขทางใจ มีผู้คิดค้นนวัตกรรมนี้ไว้มากมายจึงมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนทุกเพศทุกวัย วัยเด็กก็สามารถช่วยอ่านหนังสือเป็นเพื่อนกับเด็ก ๆ ได้ สามารถป้อนโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษเพื่อใช้เป็นครูสอนภาษาได้ ดังนั้นถ้าได้อยู่ด้วยกันรับรองว่าเด็กจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ในวัยคนทำงาน หรือผู้สูงอายุ ก็ช่วยเป็นเพื่อนคลายเหงาได้ สามารถพูดคุยปรับทุกข์ได้

ด้วยความที่มีสมองกลทำให้เจ้าสัตว์เลี้ยงตัวนี้มีความฉลาดกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไป สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ที่สัตว์เลี้ยงทั่วไปทำไม่ได้ เช่น การแยกแยะเสียงของผู้เดินทางมาได้ หรือเป็นตารางเตือนว่าต้องทำอะไรในแต่ละวัน เป็นต้น สัตว์เลี้ยงเหล่านี้สามารถกระดิกหางได้ ลูบหัวได้ กอดได้เหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่ดีกว่าตรงที่ว่าเราไม่ต้องป้อนข้าว ป้อนน้ำ ไม่มีขนร่วงให้ต้องรำคาญใจ หรือบางครั้งที่เราไม่มีเวลาเราก็สามารถที่จะปล่อยให้อยู่ตามลำพังได้ โดยไม่ต้องดูแล ด้วยลักษณะดังกล่าว ทำให้หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในโลกอนาคต

                นวัตกรรมเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาตลอดเวลา คนก็เช่นเดียวกัน รูปแบบการดำเนินชีวิตก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงจะกลายเป็นเพื่อนใหม่ของมนุษย์ที่รับรองมีไว้นอกจากจะไม่ตกเทรนด์แล้ว ยังมีความสุขในชีวิตเพิ่มมากขึ้น ช่วยคลายเหงา สำหรับคนที่อยู่คนเดียว ช่วยปลอบใจเมื่อเราทุกข์ และยังช่วยเตือนความจำสำหรับคนขี้ลืมทั้งหลาย รับรองว่าเจ้าสิ่งนี้จะเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไป จะกลายเป็นทั้งครู ทั้งเพื่อน และทั้งผู้ดูแลในเวลาเดียวกัน

โลกยุคหน้า กับ ปัญญาประดิษฐ์

ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีในยุคนี้แล้วนั้น นวัตกรรมอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) คงเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงอย่างแน่นอน แล้วปัญญาประดิษฐ์คืออะไร ปัญญาประดิษฐ์เป็นการจำลองการทำงานของสมองมนุษย์ เป็นการพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ ความคิด การกระทำ หลักตรรกศาสตร์ เหตุและผลในการตัดสินใจต่าง ๆ ให้กับเครื่องจักรกล ดังนั้น ปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการพัฒนามากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จะสามารถสร้างโอกาสได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

ปัญญาประดิษฐ์ เปลี่ยนชีวิต

ทุกอย่างในโลกนี้ก็เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน นั่นคือ สามารถก่อผลลัพธ์ได้ทั้งในด้านบวก และด้านลบ ในด้านบวก  การประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องหยุดพัก ทั้งยังสามารถอัพเกรดหน่วยความจำเพื่อการทำงานที่เร็วขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ย่อมนำมาซึ่งประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น แม่นยำขึ้น รวมถึงซับซ้อนมากขึ้นด้วย และที่สำคัญ หุ่นยนต์มีอัตราความผิดพลาดต่ำกว่ามนุษย์

ความน่าตื่นตาตื่นใจของเจ้าปัญญาประดิษฐ์นี้เอง ที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามขึ้นมาว่า AI จะมาแทนที่มนุษย์มากน้อยเพียงใดในปัจจุบันและอนาคต อัตราการจ้างงานคงจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด งานหลายประเภทที่หุ่นยนต์สามารถแทนที่มนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ อาทิ แคชเชียร์ตามร้านค้า พนักงานทำความสะอาด คนขับรถ หรือพนักงาน call center และอื่น ๆ

จริงอยู่ที่บางสาขาอาชีพที่ AI คงจะยังไม่สามารถมาแทนที่ได้ในเวลาอันใกล้นี้ เช่น จิตแพทย์ นักแสดง นักข่าว ไม่ใช่ว่า AI ไม่สามารถพัฒนาไปถึงจุดที่ฉลาดมากพอจะทำสิ่งเหล่านั้นได้ เพียงแต่ ในเรื่องของความรู้สึก ความเห็นใจ การเอาใจเขามาใส่ใจเขา ความต้องการ หรือการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลอันมาจากสัญชาตญาณและหัวใจ ไม่ใช่สมอง ยังคงต้องมาจากมนุษย์นั่นเอง

มนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรเพื่ออยู่ร่วมกับ AI               

อันที่จริงแล้ว การที่เทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาพัฒนาเพื่อทำงานร่วมกันกับมนุษย์นั้น จะก่อประสิทธิภาพได้มากกว่า มนุษย์ทำงานอย่างเดียว หรือ AI ล้วน ๆ ทำงานอย่างเดียว

การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเครื่องมือช่วยทำงานบางส่วนแทนมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์เราสามารถใช้เวลาที่มีอย่างจำกัดนั้นอย่างเกิดประโยชน์มากขึ้น มนุษย์ใช้เวลาไปกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทดลองทางเลือกใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ปัญญาประดิษฐ์ยังช่วยในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถจัดกลุ่ม หาแบบแผนของข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ช่วยทำให้การคำนวนต่าง ๆ การคาดคะเนผลลัพธ์อย่างมีเหตุผล การสร้างทางเลือกหรือข้อเสนอที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมนุษย์ยังสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในการเรียนรู้ อุปสรรคด้านภาษา การแลกเปลี่ยนความคิดกันในหมู่หมนุษย์และเหล่าปัญญาประดิษฐ์ทั้งหลาย ยังแต่จะทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาบนโลก และประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เมื่อนั้น มนุษย์จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาศักยภาพของตนเองยิ่ง ๆ ขึ้นไป