เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ แนวโน้มการนำโซล่าเซลล์มาใช้เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในอนาคต

หน้าร้อนเช่นนี้เมื่อเห็นแสงแดดแล้วหลายคนคงจะไม่อยากออกไปข้างนอก สู้เก็บตัวเปิดแอร์อยู่ในบ้านเสียยังดีกว่า แต่ในทางกลับกันแสงแดดจากดวงอาทิตย์นั้นหากมีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงาน และยังสามารถนำใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย แดดที่ร้อนแรงเช่นนี้น่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมากมายเลยทีเดียว การนำแสงแดดมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นทุกคนคงได้ผ่านหูผ่านตากันมาแล้วในห้องเรียน หรือห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภาคทฤษฎีทั้งสิ้น แต่คงยังไม่ทราบประโยชน์ และวิธีการปฏิบัติในการนำเทคโนโลยีมาใช้งานจริงกัน ซึ่งหากเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายแล้วล่ะก็ จะถือว่าเป็นการประยุกต์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นประโยชน์มากเลยทีเดียว

จากทฤษฎีพร้อมทั้งการประสบพบเจอ หลายคนคงจะเห็นภาพสิ่งที่เรียกว่าเป็นเทคโนโลยีโซล่าเซลล์ในลักษณะของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ ติดอยู่บนหลังคาบ้าน โรงงาน สิ่งก่อสร้าง หรือแปลงผัก ที่ดูแล้วเป็นอะไรที่ยุ่งยาก ใหญ่โต และซับซ้อนเสียเหลือเกิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่เป็นอุปสรรคของการนำโซล่าเซลล์มาใช้งานสำหรับบ้านเรือน และในภาคอุตสาหกรรม ด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร ทำให้เซลล์หรือแผ่นโซล่าที่ทำการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นกระแสไฟฟ้านั้นไม่ค่อยได้รับความนิยมรวมถึงยังไม่เป็นมิตรในการนำมาใช้งานจริงสักเท่าไหร่ และนอกจากขนาดที่ใหญ่ หนา เทอะทะแล้ว ราคาของเจ้าโซล่าเซลล์นี้ยังมีราคาแพง โดยส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้นการนำโซล่าเซลล์มาใช้ยังเป็นเพียงการแก้ปัญหาสำหรับสถานที่ที่ไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึง โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดาร ไม่ว่าจะเป็นบนเกาะกลางทะเล สถานที่ท่องเที่ยว อุทยานบนป่าเขา หรือโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล รวมทั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในการหล่อเลี้ยงเพื่อปล่อยสัญญาณ เป็นต้น แต่ความจริงแล้วการนำเอาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ มีประโยชน์กว่านั้นมาก เพราะสามารถเป็นการลดค่าใช้จ่าย และช่วยเพิ่มกำลังในการผลิตกระแสไฟฟ้า ที่ไม่ต้องไปพึ่งพาโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้ารูปแบบอื่นเลย เนื่องจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีอยู่อย่างเหลือเฟือ

ด้วยวิวัฒนาการและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และแนวโน้มของการประหยัดพลังงานทำให้โซล่าเซลล์กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งและหลายคนได้ประมาณการณ์ไว้ว่าจะเป็นอีกเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจและอุตสาหกรรมในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากทุกบริษัทต่างก็พยายามลดต้นทุนในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะต้นทุนด้านสาธารณูปโภคที่จำเป็นอย่างค่าไฟฟ้าด้วย ที่หากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้ความสำคัญในการเอาโซล่าเซลล์มาใช้เป็นกำลังในการผลิตจะสามารถประหยัดต้นทุนได้อย่างมาก สำหรับความก้าวหน้าในอนาคตนั้นคงเป็นการที่บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายโซล่าเซลล์ต่างตั้งหน้าตั้งตาทดลองผลิตแผงโซล่าที่มีขนาดเล็กและบางลง แต่มีกำลังในการนำพลังงานแสงอาทิตย์เปลี่ยนเป็นกำลังไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการนำโซล่าเซลล์ไปใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม ที่ตอนนี้ในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก อีกทั้งเป็นประเทศที่ได้มีการลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์มากที่สุดเช่นกันเพื่อช่วยเพิ่มกำลังการผลิตเนื่องจากมีความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าในปริมาณมาก นอกจากเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะนำมาช่วยในการลดต้นทุนในภาคอุตสาหกรรมแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ยังคงเดินหน้าทำการทดลองวิจัยในการนำเอาโซล่าเซลล์มาใช้งาน นั่นก็คืออุตสาหกรรมรถยนต์ ที่มีความต้องการเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้แทนน้ำมันและแก๊ซในการขับเคลื่อน ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ในปี 2015 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อนที่สามารถวิ่งได้โดยการเก็บพลังงานไว้ตลอดเวลาขึ้นแล้ว แต่อย่างไรก็ตามราคาของรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ยังคงมีราคาที่สูงมาก จึงยังถือว่าโซล่าเซลล์ติดรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่ยังไม่สามารถนำมาใช้งานและจับต้องได้จริง คงต้องรอกันอีกสักระยะหนึ่งเพื่อให้ราคาของเทคโนโลยีถูกลง หรืออาจต้องอาศัยนวัตกรรมที่ก้าวหน้ากว่านี้ เราอาจมีโอกาสได้ขับรถยนต์ที่ใช้โซล่าเซลล์แทนน้ำมันก็เป็นได้

อีกประเทศหนึ่งที่มีการนำโซล่าเซลล์มาเป็นกำลังหลักในการผลิตพลังงานไฟฟ้าก็คือประเทศอินเดีย ที่ได้มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2020 ในประเทศอินเดียอาจจะได้เห็นพลังงานโซล่าเซลล์มีราคาถูกกว่าถ่านหินซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไปก็เป็นได้ สุดท้ายคงต้องรอดูกันต่อไปว่าในอนาคตจะได้เห็นการนำเอาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในการผลิตไฟฟ้าทดแทนทรัพยากรอื่นกันอย่างที่หลายคนได้ประเมินไว้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นจริงขึ้นมาได้ นอกจากจะทำให้ประหยัดต้นทุนได้แล้ว ยังเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้คุ้มค่าอย่างที่สุดด้วย