ชีวิตกับเทคโนโลยีและเทคโนโลยีกับการดำรงอยุ่ของมนุษย์.

เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่เกิดจากการคิดค้นของมนุษย์ในลักษณะที่เป็นหนึ่งเดียวกันมาตามกาลเวลา ซึ่งเมื่อสมองของมนุษย์ได้มีการพัฒนาขึ้นเทคโนโลยีก็พัฒนาและเติบโตไปพร้อมๆกัน จนกล่าวได้ว่าหากไม่มีมนุษย์ก็ไม่มีคำว่าเทคโนโลยี

หากขาดซึ่งเทคโนโลยีแล้วมนุษย์ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติได้เช่นกัน โดยในอดีตนั้นเราสามารถเรียกได้ว่าการดำรงชีวิตเป็นตัวกำหนดเทคโนโลยี กล่าวคือ ทุกๆสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นก็เพื่อให้มนุษย์นั้นมีชีวิตอยู่และสามารถดำรงอยู่ได้ในลักษณะที่ต้องต่อสู้กับธรรมชาติรอบตัวที่อาศัยอยู่นั้นมาตั้งแต่บรรพกาลไม่ว่าจะเป็นภัยจากธรรมชาติโดยตรง เช่น สภาพของดินฟ้าอากาศที่หนาวเย็นหรือร้อนจัดจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากขาดการคิดค้นเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือเพื่อเอาชนะธรรมชาติเหล่านั้นเป็นต้น และภัยจากสิ่งมีชีวิตเช่นสัตว์ป่าต่างๆก็เช่นกัน และยังรวมตลอดถึงการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใดๆไม่ว่าโดยตั้งใจหรือด้วยความบังเอิญก็เกิดขึ้นเพื่อให้ตนมีชีวิตอยู่รอดได้ในเบื้องต้น ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นการล่าสัตว์ทำการเกษตรเพื่อบริโภคและก้าวหน้าไปเป็นเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าระหว่างกัน และการพัฒนาเทคโนโลยีได้จึงมีความหมายมากกว่าแค่เพื่อความสะดวกสบายแต่ได้กลายเป็นการแข่งขันเพื่อธุรกิจในเวลาต่อมา แต่ถึงอย่างไรเทคโนโลยีที่พัฒนาในช่วงแรกนั้นก็ถือว่าเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมการดำรงชีวิตและต่อสู้กับธรรมชาตอย่างแท้จริง จึงมีลักษณะของชีวิตเป็นผู้กำหนดเทคโนโลยี  แม้ต่อมาเมื่อมนุษย์มั่นใจในตนเองว่าสามารถรับมือกับธรรมชาติได้แล้ว มนุษย์จึงได้พยายามคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่จะทำให้ตนเองอยู่เหนือกว่าสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการคิดที่จะบินได้ การพูดคุยกันในระยะไกล การจับเอาภาพและเสียงจากที่หนึ่งส่งไปสู่อีกที่หนึ่งเป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของความต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดทางธรรมชาติของมนุษย์และใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเองมากำหนดให้ธรรมชาติอยู่ในความควบคุมของตนเอง และเมื่อสามารถควบคุมธรรมชาติได้แล้วมนุษย์จึงเริ่มที่จะหันมาควบคุมมนุษย์ด้วยกันเองมากขึ้นผ่านเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมานั้น ดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันหากมีผู้ใดสามารถที่จะคิดค้นเทคโนโลยีใดที่มีความทันสมัยในด้านของความนิยมตามยุคสมัยและมีความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานแล้วไม่ว่าเทคโนโลยีนั้นจะเกิดขึ้นเพื่อบุคคลทั่วไปหรือเพื่อความมั่นคงในทางทหารแล้ว

เทคโนโลยีนั้นก็จะถูกบุคคลที่เราเรียกว่านายทุนเป็นผู้กำหนดทิศทางในการจัดจำหน่ายและใช้ควบคุมทิศทางความต้องการของมนุษย์ได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังก่อให้เกิดรายได้มหาศาลแก่นายทุนผู้ควบคุมเทคโนโลยีนั้นอีกด้วย จนสามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนั้นแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเองและใช้เพื่อควบคุมมนุษย์ด้วยกันเองให้ทำตามที่ตนเองต้องการได้ แต่ในอีกด้านหนึ่งเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นนั้นนอกจากจะทำให้มนุษย์ก้าวหน้าและเข้าใจในธรรมชาติมากขึ้นแล้วก็ยังมีส่วนเกี่ยวพันในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในทุกระดับชั้นไม่ว่าจะเป็นคนจนที่มีรายได้น้อยหรือคนรวยก็จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน