เมื่อเทคโนโลยีทำให้คนกล้าโกหกกันมากขึ้น

ภายในสองถึงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเป็นวัน “เมษาหน้าโง่” แถมเดือนเมษาก็ล่วงเลยมาไกลมาก ทว่ากลับมีคนโกหก มีคนความแตกอย่างต่อเนื่องกันเลยทีเดียว เหมือนนักวิ่งผลัดที่ส่งไม้ต่อกันเป็นทอด ๆ อย่างไรอย่างนั้น

แรกเริ่มเดิมทีเน็ตไอดอลสาวประกาศว่าเธอท้องกับพระเอกหนุ่มคนหนึ่ง ทุกคนต่างสงสารและเห็นใจเธอ ส่วนชายหนุ่มหน่ะเละไปตามระเบียบ จนเมื่อนักสืบโซเชียลทั้งหลายได้กลิ่นตุ ๆ จากเรื่องนี้ จึงเริ่มขุดคุ้ย ติดตามดูพฤติกรรมของเธอ พอมั่นใจในระดับหนึ่งจึงพร้อมกันฟลัดแฮชแท็กรัว ๆ “…โป๊ะแตก” ทีแรกเจ้าตัวยังดริฟท์ต่อไปว่าแท้งลูก แต่ถูกชาวโซเชียลจับได้ว่าไม่ได้ท้องจริงตามที่ประกาศปาว ๆ ก่อนหน้านี้ จึงออกมาขอโทษสังคมและยอมรับว่าตัวเองโกหก

ถัดมาไม่นานพ่อค้าลอตเตอร์รี่ถ่ายภาพตัวเองกับลอตเตอร์รี่ที่อ้างว่าถูกรางวัลมีมูลค่ากว่าเก้าสิบล้าน แถมพ่อค้ายังแสดงความซื่อสัตย์ด้วยการนำคืนลูกค้าไม่โลภเอาไปขึ้นเงินเองอีกด้วย จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงข่าวนี้ถูกแชร์ออกไปพร้อมแฮชแท็ก “คนดีศรีอัมพวา” ว่อนโลกโซเชียล วันต่อมาทั้งสื่อ ทั้งหมอดูชื่อดัง ชาวบ้านจากทุกสารทิศต่างกรูกันเข้าไปขอถ่ายรูป อุดหนุนลอตเตอร์รี่พ่อหนุ่มจิตใจประเสิรฐคนนั้น ไม่นานนักก็ถูกทนายดังตั้งข้อสังเกตแถมถูกแฉเรื่องความไม่เนียนเรื่องลอตเตอร์รี่ในมือ สุดท้ายความแตกจนต้องออกมาขอโทษสังคมอีกคน แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นเพราะยังต้องถูกดำเนินคดีอีกหลายข้อหา

ภายในสัปดาห์เดียวกัน ชายหนุ่มปริศนาที่เหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์ Catch me if you can ทำการสมอ้างแฝงตัวเข้าไปตีเนียนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาทำทุกอย่างเหมือนนักศึกษาปกติทั่วไป เช่าหอพักแถวมหาวิทยาลัยหารกับเพื่อนนักศึกษา แต่งกายชุดนักศึกษาออกไปเรียน แถมมีภาพถ่ายร่วมกับเพื่อนนักศึกษา ได้รับเกียรติเป็นผู้ถือป้ายมหาวิทยาลัยในงานสำคัญด้วย ไม่นานอีกเช่นกันเพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งได้เอารหัสนักศึกษา และชื่อ-สกุลของหนุ่มรายนี้เข้าไปค้นหาในฐานข้อมูลเพื่อกิจกรรมบางอย่างของมหาวิทยาลัย ปรากฏว่าเขาไม่มีตัวตนจริงในสารบบ ตอนนั้นเองที่เริ่มมีการรวมกลุ่มหาที่มาว่าชายหนุ่มปริศนาคนนั้นเป็นใคร? มีจุดประสงค์อะไร? จนได้พบวีรกรรมสุดแสบมากมาย จนได้ข้อสรุปว่าหมอนี่กำลังสร้างโปรไฟล์สวยหรูเพื่อลวงโลก หลายคนออกมาแฉพฤติกรรมของชายหนุ่มไม่ขาดสาย ทั้งเรื่องการยักยอกเงิน นิสัยส่วนตัว เพียงชั่วข้ามคืนแฮชแท็ก “…สกล” ก็กลายเป็นข่าวดังระดับประเทศ เจ้าตัวปิดแอคเค้าท์โซเชียลมีเดียทุกช่องทางและหายตัวไปเลย จนตอนนี้สังคมตามหากันจ้าละหวั่น

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเหล่านี้โกหกเพราะนิสัยส่วนตัว หรือค่านิยมทางสังคมกันแน่ที่บีบให้เขาต้องทำตัวให้เด่น ดี อวดโลกด้วยตัวตนปลอมในโลกไซเบอร์ให้สวยงาม เพียงเพราะต้องการโอกาสทางสังคม? แต่ที่เรารู้แน่ๆคือแฮชแท็กเป็นอักษรสั้น ๆ ที่มีพลัง เปลี่ยนคนธรรมดาให้โด่งดังได้ในข้ามคืน เชิดชูคนไม่ดีให้เป็นคนดีก็ได้ และก็เหมือนดาบสองคมถ้าคนเหล่านั้นทำเรื่องไม่ดีจริง ๆ คำ ๆ นั้นก็จะติดตัวเขาไปตลอดเช่นกัน