ความรู้ทั่วไปและข้อคิดจากการใช้เทคโนโลยี

คำว่าเทคโนโลยีนั้นมีความหมายที่ค่อนข้างจะกว้างมากทีเดียวค่ะ ซึ่งตามความหมายโดยทั่วไปแล้วก็มักจะหมายถึง ธรรมชาติวิทยาต่อเนื่องไปจนถึงในเรื่องของวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็กลายมาเป็นต้นแบบทำให้วิธีการต่างๆ เกิดขึ้นในทางปฏิบัติ เพื่อเป็นการประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ หรือการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จึงทำให้เกิดการประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์มากมายขึ้นมาใช้งาน รวมไปถึงความรู้นามธรรมต่างๆ เช่น ระบบหรือกระบวนการเพื่อช่วยให้การดำรงชีวิตของเราให้เป็นไปอย่างง่ายขึ้นด้วย แต่มันก็ทำให้เกิดผลกระทบในหลายรูปแบบขึ้นมาได้เหมือนกัน ในสังคมที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ โดยเฉพาะการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ตั้งแต่ในระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลกเลยทีเดียว
เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น จึงขอนำเอาระดับของเทคโนโลยีที่มีการแบ่งออกไว้เป็น 4 ระดับ มาเล่าสู่กันฟังดังนี้เลยค่ะ เริ่มจากระดับเบื้องต้นเลย ที่สามารถสรรหาได้ง่ายๆ ภายในประเทศ หรือพัฒนาขึ้นได้เองในระยะเวลาเพียงไม่นาน เช่น โทรศัพท์ หรือตู้เย็นเป็นต้นค่ะ ส่วนระดับที่สองจะเป็นระดับปานกลาง ที่เรามักจะต้องสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ แต่ก็สามารถนำมาพัฒนาขึ้นได้ภายในประเทศของเราเองค่ะ ซึ่งก็ควรจะต้องมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อให้เห็นผลและได้ประโยชน์อย่างสูงสุด เช่น ทีวี หรือเครื่องเสียงต่างๆ ส่วนระดับที่สามคือ เทคโนโลยีระดับสูง ที่ต้องซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบ มาจากต่างประเทศ แต่ก็สามารถใช้งานได้โดยคนไทย และหากจะทำการพัฒนาต่อยอดกันขึ้นในประเทศไปอีก ก็ต้องซื้อเทคโนโลยีแกนมาจากต่างประเทศด้วย เช่น คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือเป็นต้นค่ะ ส่วนระดับสุดท้ายคือระดับที่สี่ จะเป็นเทคโนโลยีที่มีระดับที่สูงมากๆ คือต้องซื้อทั้งอุปกรณ์และทักษะการใช้งานทุกอย่าง มาจากต่างประเทศทั้งหมดเลย เช่น ระบบการคมนาคมสื่อสารที่มีขนาดใหญ่ เป็นต้นค่ะ ถ้าจะว่าไปแล้วเทคโนโลยีก็มีความสำคัญ ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เราอยู่มากพอสมควรนะคะ อย่างเช่น สามารถใช้เป็นเป็นพื้นฐานและปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีวิต และใช้เป็นปัจจัยหลักที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้เจริญก้าวหน้าค่ะ
เท่าที่ผ่านมาก็ถือได้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นจนสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาได้มากมายเลยทีเดียวค่ะ อย่างเช่น การเรียนรู้ การผลิต รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากแนวความคิดใหม่ๆ ซึ่งมันสามารถทำให้เกิดผลในด้านต่างๆ ขึ้น ทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม แต่บางทีมันก็อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับความเรียบง่ายของโลก ให้กลายเป็นสังคมที่มีการดำรงชีวิตที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดโลกไร้พรมแดน หรือเป็นตัวนำกระแสใหม่ๆ เข้าไปสู่ประเทศต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น จนเกิดการผสมผสานศาสตร์แขนงต่างๆ 4 อย่างเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ คอมพิวเตอร์ อิเล็คทรอนิค ข่าวสาร และการโทรคมนาคม และนี่เองค่ะที่เป็นจุดเริ่มต้นของโลกยุคการสื่อสารไร้พรมแดน เพราะสามารถทำให้การติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากจะพูดกันให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาที่เป็นไปอย่างก้าวกระโดด ก็คงจะไม่ผิดไปจากความเป็นจริงกันสักเท่าไหร่นักนะคะ นอกจากการติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกสบายจากทุกแห่งทั่วโลกแล้ว ยังสามารถช่วยให้เราได้รับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็วฉับไวมากยิ่งขึ้นได้อีกทางด้วย ถึงขั้นสามารถรับข่าวสารรวมทั้งรู้ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ได้พร้อมกันทั่วโลกในระยะเวลาเดียวกันด้วยซ้ำ ส่วนในกรณีการลงทุนค้าขาย หรือทำธุรกิจ ก็สามารถบริหารจัดการและติดสินใจ ในด้านต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการทำธุรกรรมด้านการเงินด้วย ซึ่งหากจะบอกว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกำลังจะทำให้โลกอันกว้างใหญ่ใบนี้เล็กลงเรื่อยๆ ก็คงจะเห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ ค่ะ
เมื่อเทคโนโลยีมันสามารถอำนวยความสะดวกสบาย และมีความสำคัญมากขนาดนี้ เราก็มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากความเจริญของมัน ซึ่งประโยชน์ที่เราจะได้รับกันตรงๆ เลยก็คือ การช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และยังช่วยพัฒนาระบบของอารยะธรรมในทางอ้อมได้อีกด้วยค่ะ ช่วยให้เราได้รับความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้น ทำให้ชีวิตมีความทันสมัยขึ้น และช่วยประหยัดเวลา ช่วยลดการทำงานในส่วนต่างๆ ที่สามารถใช้เทคโนโลยีในการทำแทนได้นั่นเองค่ะ เห็นกันหรือยังคะ ว่าประโยชน์ของมันนั้น ช่วยให้ชีวิตของมนุษย์เราสามารถดำเนินไปได้อย่างง่ายดายขึ้นมากขนาดไหน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ เมื่อมันให้คุณมันก็ย่อมต้องมีโทษตามมาอย่างแน่นอนรวมทั้งเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วยค่ะ แม้ทุกวันนี้มันจะมีความจำเป็นอย่างมากในการดำรงชีวิตของเรา ในหลายๆ ด้าน แต่ถ้าหากเราไม่รู้จักใช้ให้มันถูกวิธีมันก็ทำให้เกิดโทษได้เหมือนกันค่ะ เช่น ผลต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่อาจจะถูกทำลายลงไปได้โดยที่เรายังไม่ทันได้คาดคิด รวมทั้งความเจริญของเทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่ช่วยให้งานและการดำรงชีวิตของมนุษย์ง่ายขึ้น และมันจะส่งผลให้คนเรามีความขี้เกียจมากยิ่งขึ้น เพราะได้รับความสะดวกสบายมากเกินไปนั่นเองค่ะ