ไมโครเวฟอัจฉริยะผู้ช่วยคนใหม่สำหรับห้องครัว

ถ้าพูดถึงอาหารนั้น หลาย ๆ คนคงมองที่ความอร่อยของอาหารที่จะรับประทานเข้าไป โดยความอร่อยที่ว่านี้ต้องมาควบคู่กับความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตด้วย ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะฝากท้องของตนเองไว้กับร้านอาหารชื่อดัง หรือร้านที่มีคนรีวิวว่าเป็นอาหารเลิศรส ปัญหาของการไปรับประทานอาหารตามร้าน หรือสั่งมาทานที่บ้านก็คือ เวลา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปซื้อ หรือรับประทานอาหารตามร้านต่าง ๆ หรือการต้องรออาหารที่สั่งจากผู้ส่ง และค่าใช้จ่าย สำหรับมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย การฝากท้องไว้กับร้านอาหารทำให้เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย จะเห็นได้ว่ามีการพูดเล่นว่าเศรษฐีต้นเดือน แต่พอปลายเดือนต้องมารับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทน ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไป เพียงแค่มีผู้ช่วยที่ดี นั่นคือ ไมโครเวฟอัจฉริยะ จุดเด่นของผู้ช่วยคนนี้มีดังต่อไปนี้

  1. สำหรับผู้ที่ไม่ชอบการทำอาหาร แต่ชื่นชอบความอร่อย ลองซื้ออาหารแช่แข็งที่ร้านดังที่ชื่นชอบมาติดตู้เย็นไว้ เมื่อหิวให้นำอาหารนั้นมาสแกนบาร์โค้ดเพียงแค่นี้ผู้ช่วยคนใหม่ก็จะทำหน้าที่คำนวณระยะเวลาในการอุ่นได้เลยว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ และความร้อนระดับใดในการอุ่นถึงจะทำให้อาหารนี้มีรสชาติอร่อยที่สุด เหมือนไปนั่งกินที่ร้าน การใช้งานเพียงแค่เชื่อมต่อไมโครเวฟอัจฉริยะกับ Smart Phone เสียก่อน จากนั้น Download โปรแกรมเฉพาะเพียงแค่นี้การสั่งงานทุกอย่างก็ย้ายมาอยู่ที่ Smart Phone แล้ว ทั้งสะดวก และอร่อยได้ง่าย ๆ
  2. การสั่งงานด้วยระบบเสียง โหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่มือไม่ว่างที่จะกดสั่งงานไมโครเวฟ เพียงแค่พูดสั่งก็ได้ตามที่ต้องการ เช่น เมื่อกำลังอุ่นอาหารอยู่ แล้วรู้สึกว่าอาหารกำลังจะไหม้ เพียงแค่ใช้เสียงสั่งให้ไมโครเวฟหยุดการทำงาน อาหารที่อยู่ภายในไมโครเวฟก็จะสามารถทานได้ปกติ เพราะไม่เกิดความเสียหาย หรือ ถ้าต้องการให้ต้มน้ำ แต่มือกำลังถือของอยู่จำนวนมาก ก็พูดสั่งให้ไมโครเวฟทำงานได้ทันที เป็นต้น
  3. ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ไมโครเวฟอัจฉริยะพัฒนาก้าวหน้ามาก นั่นคือ สามารถปรุงอาหารได้ด้วยตนเอง เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องจ้างพ่อครัวมืออาชีพแต่ก็เหมือนได้รับประทานอาหารจากมืออาชีพ การทำงานก็คือ เมื่อพูดชื่อวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วพร้อมเมนูที่ต้องการ พ่อครัวอัจฉริยะก็จะทำหน้าที่คำนวณเวลาเลยว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะทำเมนูแสนอร่อยให้รับประทานได้สำเร็จ เมื่ออาหารเสร็จแล้ว ถ้ายังรู้สึกว่าต้องการให้สุกเพิ่มขึ้น หรือถ้าต้องการให้หยุดทำอาหาร ก็สั่งให้หยุดได้ทันที

การทำอาหารที่เคยเป็นปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่จะหมดไป เพียงแค่เลือกให้ไมโครเวฟอัจฉริยะเป็นผู้ช่วยคนใหม่ประจำครัว เพียงแค่นี้ก็เหมือนยกร้านอาหารมาไว้ภายในบ้านได้อย่างไม่ต้องสงสัย และถ้ามีการติดตั้งลำโพงอัจฉริยะ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมก็ยังสามารถสั่งวัตถุดิบต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องผ่าน Smart Phone ด้วย ถือเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยที่ควรหาติดครัวสำหรับแม่บ้านยุคใหม่

แปรงสีฟันไฟฟ้าอัจฉริยะนวัตกรรมใหม่สำหรับสุขภาพช่องปาก

การดูแลสุขภาพช่องปากถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับทุกคน เนื่องจากการติดต่อสื่อสารระหว่างกันจำเป็นต้องใช้คำพูด การพูดแต่ละครั้งถ้ามีปัญหาเรื่องสุขภาพช่องปากก็จะทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เล็ดลอดออกมาในขณะที่พูดคุย อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในการพบปะผู้คนนั่นเอง การดูแลช่องปากที่ถือได้ว่าเป็นวิธีพื้นฐาน และยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การแปรงฟันแบบถูกวิธีนั่นเอง ลองถามตัวเองว่าตอนนี้แปรงฟันถูกวิธีหรือไม่ ทั้งลักษณะการแปรง และเวลาในการแปรง ต่อไปนี้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไปด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้าอัจฉริยะ แปรงสีฟันชนิดนี้ต่างจากแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบทั่วไป ดังต่อไปนี้

  1. แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบทั่วไปทำได้เพียงแค่ส่ง Ultrasonic จากบริเวณหัวแปรงไปทำลายคราบหินปูนต่าง ๆ ที่เกาะอยู่บนฟันได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถช่วยแปรงฟันได้แบบถูกวิธี ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้แปรงสีฟันไฟฟ้าอัจฉริยะทำได้มากกว่านั้น ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องแปรงฟันด้วยตนเองอีกต่อไปเพียงแค่จ่อหัวแปรงที่บริเวณฟัน แปรงก็จะทำหน้าที่ในการแปรงฟันแบบถูกวิธี นั่นคือ การแกว่งของหัวแปรงจะเป็นจังหวะเหมือนไปใช้บริการขัดฟันกับหมอฟันมืออาชีพ อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาในการแปรงฟันที่ถูกต้องได้ ก็คือ 2 นาที ทุก ๆ 30 วินาทีของการแปรงฟัน เครื่องจะหยุดทำงานเพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่าต้องเปลี่ยนมุม หรือที่ในการแปรงฟันแล้วนั่นเอง
  2. มีขนาดเล็กกะทัดรัดกว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบทั่วไป รูปร่างเหมือนแปรงสีฟันธรรมดาแต่มาพร้อมกับคุณภาพเกินธรรมดา ทำให้สามารถพกพาได้สะดวก มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการเดินทางเป็นอย่างมาก และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องใช้แท่นวางที่ใหญ่เกะกะ เพราะแปรงสีฟันไฟฟ้าอัจฉริยะมีตัวยึดทำให้ยึดกับกระจก หรือผนังห้องน้ำได้ทันที เรียกได้ว่าประหยัดพื้นที่สำหรับห้องน้ำอย่างมาก
  3. บริเวณด้านหลังของหัวแปรงจะมีมีดโกนเอาไว้ให้ใช้งานได้ เช่น สำหรับคุณสภาพบุรุษทั้งหลายเมื่อต้องเดินทาง สามารถนำมาใช้แทนมีดโกนหนวดได้เลย หรือสำหรับสาว ๆ สามารถใช้มากันคิ้วให้สวยงามได้ เป็นต้น
  4. การเปลี่ยนหัวแปรงก็ง่าย และสะดวกอย่างมาก หัวแปรงมีความนิ่มเป็นพิเศษทำให้ไม่เกิดปัญหาเลือดออกตามไรฟันตามมา
  5. ราคาไม่แพงมากนัก สำหรับผู้ที่ต้องการความสะอาด แบบถูกวิธี สามารถหามาใช้งานได้แบบไม่หนักกระเป๋าอย่างแน่นอน

สำหรับผู้ที่ปัญหาเรื่องกลิ่นปากอันมาจากการแปรงฟันไม่สะอาด และไม่ถูกวิธี ลองหาแปรงไฟฟ้าอัจฉริยะมาใช้งานแทนแปรงสีฟันที่ใช้อยู่ รับรองว่าใช้เวลาเพียงแค่ 6 สัปดาห์ จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของช่องปากไปในทางที่มีสุขภาพดีมากขึ้น ทดสอบง่าย ๆ ก็คือ กลิ่นปากจะหอมสดชื่น และฟันขาวสะอาดมากขึ้น เมื่อลองคำนวณรายจ่ายที่ต้องซื้อแปรงแล้ว เรียกได้ว่าถูก และประหยัดกว่าการเข้าไปทำฟันโดยหมอฟันมืออาชีพ อย่างไม่ต้องสงสัย

กริ่งอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยสำหรับบ้านยุคใหม่

ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยอย่างมาก ทำให้วัตถุสิ่งของต่าง ๆ พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้วัตถุสิ่งของที่มีความทันสมัย มีราคาค่อนข้างสูง แต่รูปลักษณ์ของสิ่งต่าง ๆ กลับมาขนาดเล็กลง ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เช่น โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ ลำโพง หรือ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น เป็นสาเหตุให้เกิดการขโมยสิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในบ้านที่ถือว่าเป็นที่มีความปลอดภัยสูงสุดในการดำเนินชีวิตสำหรับทุกคน เครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้านที่มีราคาแพงก็มีจำนวนมากตามไปด้วย ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยภายในบ้านต้องเริ่มจากการป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก เข้ามาภายในบ้านได้ถ้าเจ้าของบ้านไม่ต้องการ นวัตกรรมที่มีความทันสมัยเพื่อความปลอดภัยสำหรับบ้านก็คือ กริ่งอัจฉริยะ จุดเด่นของเจ้ากริ่งตัวนี้มีดังต่อไปนี้

  1. ทำให้รู้ได้ทันทีว่าใครกำลังมากดกริ่งอยู่หน้าบ้าน ไม่เหมือนกริ่งแบบทั่วไปที่เจ้าของบ้านไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครมากดกริ่งหน้าบ้านจนกว่าจะเปิดประตูออกมา ทำให้ไม่รู้เลยว่าผู้มากดกริ่งเป็นโจร หรือเป็นผู้ที่ไม่ต้องการต้อนรับหรือไม่ แต่กริ่งอัจฉริยะสามารถมองเห็นได้เลยว่าใครอยู่หน้าบ้าน ไม่ว่าเจ้าของบ้านจะอยู่ในบ้าน หรืออยู่ภายนอกบ้านก็ไม่ต้องกังวล ระบบการเตือนของกริ่งเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้เมื่อมีคนมากดกริ่งเมื่อไม่อยู่บ้านก็จะมีการเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร ถ้ารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยก็ไม่จำเป็นต้องเปิดบ้าน และยังแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูแลรักษาความปลอดภัยได้แบบทันเวลา
  2. ใช้แทนกล้องวงจรปิด หรือ CCTV เพื่อดูแลความปลอดภัยหน้าบ้านได้เลยไม่ต้องจำเป็นต้องติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม กล้องที่มากับกริ่งอัจฉริยะนี้มีมุมมองแบบ 160 องศา และยังมีโหมดที่ใช้สำหรับถ่ายวีดีโอในเวลากลางคืนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้ามีผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่บริเวณหน้าบ้านก็มีหลักฐานเอาผิดได้อย่างแน่นอน
  3. กริ่งอัจฉริยะมีโหมดการจดจำใบหน้า สามารถบันทึกใบหน้า และรายละเอียดต่าง ๆ ของคนที่รู้จักไม่ว่าจะเป็นญาติ หรือเพื่อนไว้ได้ เมื่อมีคนมากดกริ่งแล้วเป็นผู้ที่ได้บันทึกไว้ กริ่งก็จะทำหน้าที่เหมือนเจ้าของบ้านนั่นคือทักทายผู้อยู่หน้าบ้านได้แบบทันที เรียกได้ว่าสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาบ้านได้ตั้งแต่หน้าประตูเลยทีเดียว
  4. กริ่งรุ่นนี้มีระบบของลำโพง และไมโครโฟนที่ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพอย่างมาก ทำให้ติดต่อสื่อสารกับผู้ที่มากดกริ่งหน้าบ้านได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ภายในบ้านหรือไม่อยู่ภายในบ้าน เช่น ถ้ามีไปรษณีย์มาส่งของแต่ยังไม่สะดวกออกมารับก็บอกผู้มาส่งว่าให้วางของไว้หน้าบ้าน หรือฝากของไว้กับใครได้ในกรณีที่ไม่อยู่บ้าน เป็นต้น

กริ่งอัจฉริยะถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการความปลอดภัยภายในบ้าน เพราะกริ่งถือเป็นปราการด่านแรกภายในบ้านนั่นเอง ดังนั้น การติดกริ่งอัจฉริยะก็เหมือนมีผู้ช่วยที่ดีสำหรับบ้าน

กุญแจสู่ความสำเร็จของเจ้าพ่อแห่งวงการเทคโนโลยี อีลอน มัสก์

หากผู้ใดติดตามข่าวสารวงการเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ชายผู้อุทิศตัวเองเพื่อคิดค้นเทคโนโลยีที่จะช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษยชาติ ชายที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของพลังงานสิ่งแวดล้อม ชายที่มีความใฝ่ฝันสูงสุดที่จะพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปตั้งรกรากถิ่นฐานใหม่ที่ดาวอังคาร ชายที่ชื่อ อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ คือบุรุษผู้ก่อตั้งบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น  PayPal ,  SpaceX , Tesla ,
SolarCity , OpenAI , Neuralink  และ The Boring Company ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทั้งสิ้น อีกทั้ง
อีลอน มัสก์ ยังเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดระบบขนส่งความเร็วสูงอย่าง Hyperloop ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในขณะนี้

แล้วชายผู้นี้มีวิธีคิดอย่างไรที่พาตัวเองให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในโลกของเทคโนโลยี

ผู้เชี่ยวชาญด้านการสังเกต

สิ่งที่หลายๆคนรู้เกี่ยวกับ อีลอน มัสก์ นั้น คือเขาเป็นนักอ่านและแสวงหาความรู้ตัวยง แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ เขามักจะสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงานหรือด้านการใช้ชีวิต เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆวัน

โฟกัสให้ลึก

เชื่อหรือไม่ ในระหว่างที่ทำงาน เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่งใดมาขัดขวางหรือเบี่ยงเบนความสนใจไปจากงานที่ทำอยู่ แม้กระทั่งเสียงเตือนจากโทรศัพท์ เพราะเขาเชื่อว่า การโฟกัสกับงานอย่างจริงจังจะทำให้สามารถเปิดการรับรู้ทางความคิดได้อย่างเต็มที่ และจะทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด

หวงแหนเวลา

เวลาเป็นสิ่งที่ยุติธรรมมากที่สุดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีพื้นฐานชีวิตอย่างไร ต่างก็มีเวลาในการชีวิตในแต่ละวันอย่างเท่าเทียมกัน อีลอน มัสก์ เองก็เชื่อเช่นนั้น โดยเขาจะใช้เวลาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดอยู่เสมอ ทั้งการตอบอีเมลที่สั้น กระชับ ได้ใจความ การจัดประชุมวางแผนที่ต้องตรงประเด็น ไม่ยืดเยื้อ หรือแม้แต่ในเวลารับประทานอาหารที่เขามักจะใช้เวลาควบคู่ไปกับการทำงานที่ไม่ต้องใช้ความคิดมากนัก เช่น การนัดหมาย และอ่านรายงานข้อมูล เป็นต้น

กล้าล้มเหลว เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจน

จริงๆแล้ว สิ่งที่เขามักจะย้ำอยู่เสมอแต่กลับไม่ค่อยถูกพูดถึงคือ ตัวเขาเองก็ล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ความล้มเหลวไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา มันกลับเป็นเหมือนการทำงานวิจัยและทดลอง เพื่อที่จะนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งเขาไม่เคยกลัวความผิดพลาดในการตัดสินใจ เพราะอย่างน้อยที่สุด มันจะทำให้เขานำมาปรับปรุงพัฒนาแนวคิดเพื่อให้เกิดงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ

ถึงแม้หลายๆคนอาจมองชายที่ชื่อ อีลอน มัสก์ ว่าเป็นคนที่มีอีโก้สูง แต่สิ่งที่เขาได้ยึดถือมาตลอดคือ ความตั้งใจในการที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ทุกคนให้มีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น และสร้างความเท่าเทียมทางด้านเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกอย่างแท้จริง

ท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือจะสู้ การท่องเที่ยวในอวกาศ

หากโลกยังไม่หยุดหมุนรอบตัวเอง มนุษย์ก็จะไม่หยุดคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นมาได้อยู่เสมอ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีใครคาดคิดแต่มันกำลังจะเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้ คือธุรกิจในแวดวงการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่จะพาคุณท่องเที่ยวในดินแดนต่างประเทศ แต่ตอนนี้ ได้เกิดแนวคิด การท่องเที่ยวในอวกาศ ขึ้นเป็นที่เรียบร้อย

บริษัทชั้นนำต่างๆของโลกมากมายกำลังให้ความสนใจในการลงทุนทำธุรกิจ การท่องเที่ยวในอวกาศ  ไม่ว่าจะเป็น
ทางบริษัท Blue Origin หรือ SpaceX ต่างก็มีความตั้งใจที่จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวไปในอวกาศนั้นเกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องที่นักบินอวกาศเท่านั้นที่จะสามารถทำได้

Blue Origin เริ่มต้นแนวคิดจากความหลงใหลในเรื่องอวกาศ ของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกอย่าง เจฟฟ์ เบโซส์ เจ้าของบริษัทชั้นนำอย่าง Amazon ที่ต้องการให้เกิด การท่องเที่ยวในอวกาศ เชิงพาณิชย์ โดยจะให้ผู้โดยสารได้สัมผัสประสบการณ์จากการนั่งจรวดขึ้นไปอยู่บนวงโคจรของโลก ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักบนอวกาศ สามารถลอยรอบอยู่บริเวณโดยรอบห้องโดยสาร และมองวิวทิวทัศน์บนอวกาศได้จากทั่วทุกมุม ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศและนำผู้โดยสารลงมาสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย

ในขณะที่ทางบริษัท SpaceX ที่นำโดยไอรอนแมนในโลกแห่งความจริงอย่าง อีลอน มัสก์ กลับต้องการทำสิ่งที่ล้ำยิ่งกว่านั้น คือการพาผู้โดยสารไปท่องเที่ยวที่ดาวดวงอื่น และมีเป้าหมายสูงสุดที่จะพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ ขึ้นไปสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร โดยมีแนวคิดในการนำยานอวกาศที่สามารถรับผู้โดยสารได้กว่า 100 คน เดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวบนอวกาศ และจะเป็นการพาไปท่องเที่ยวบนดาวจริงๆ โดยที่วิธีการนี้อาจจะต้องใช้ทรัพยากรเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก แต่ทาง อีลอน มัสก์ ได้กล่าวไว้ว่า จะมีการสร้างสถานีสำหรับผลิตเชื้อเพลิงที่ไว้ให้พลังงานขึ้นบนดาวดวงต่างๆ เพื่อรองรับพลังงานไว้สำหรับเดินทางกลับสู่โลก

นอกจากนี้ ทางบริษัท SpaceX ยังได้วางแผนที่จะทำธุรกิจสำหรับเดินทางระหว่างประเทศ โดยจะมีจุดเชื่อมต่อในการเข้าสู่วงโคจรในอวกาศเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อร่นระยะทางในการเดินทางให้สั้นลง โดยหากแนวคิดนี้สำเร็จจะทำให้การเดินทางระหว่างประเทศใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงในการข้ามไปสู่อีกซีกโลกหนึ่ง

ยังมีบริษัทชั้นนำอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ต่างต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับธุรกิจ การท่องเที่ยวในอวกาศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการทางการตลาดสูงถึงกว่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอาจมีมูลค่าที่สูงมากไปกว่านี้ เพราะต้องไม่ลืมว่าการเดินทางไปสู่อวกาศ คือหนึ่งในความฝันที่มนุษย์ทุกคนต่างต้องการสัมผัสประสบการณ์นั้นสักครั้งในชีวิต และเชื่อว่าภายในไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า ตลาด การท่องเที่ยวในอวกาศ จะเป็นที่แพร่หลายอย่างมาก และจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงที่สุด เพราะตราบใดที่จักรวาลยังไม่มีขอบเขตที่สิ้นสุด มนุษย์ก็จะมีเป้าหมายในการท่องเที่ยวไปในอวกาศแบบไม่รู้จบ

Smart City เปิดอนาคตสู่โลกของคนยุคใหม่

ลองนึกภาพกันว่าจะเป็นอย่างไร หากเราอยู่ในเมืองที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกๆ ก้าวของการดำเนินชีวิต หากระบบการจัดการสาธารณูปโภค การศึกษา สาธารณสุข และการควบคุมดูแลกฎหมาย ได้ถูกผนวกเข้ากับเทคโนโลยีอันทันสมัย จะสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับเราได้มากน้อยเพียงไร

แนวคิดเรื่อง Smart City จะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาช่วยปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างพื้นฐานในด้านดำเนินชีวิตของมนุษย์ ทั้งด้านการแก้ไขปัญหาการเดินทางบนเส้นทางจราจรที่หนาแน่น การนำระบบอินเทอร์เน็ตมาเชื่อมต่อเข้ากับระบบเซ็นเซอร์ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปปรับปรุงในการให้บริการสาธารณะ โดยสามารถแบ่งเป็นหัวข้อในการพัฒนาได้ดังนี้

Smart Governance

                คือการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยวิเคราะห์และวางแผนเพื่อช่วยให้หน่วยงานรัฐสามารถนำมาประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งยังจะมีส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องการให้บริการสาธารณะ ลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น และช่วยให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเน้นการทำงานบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

Smart Mobility

                เป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการจราจร ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเส้นทางเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง และยังช่วยลดปัญหามลพิษบนท้องถนนที่มีต้นเหตุหนึ่งมาจากการจราจรที่หนาแน่นในทุกๆวัน

Smart Building

                การก่อสร้างอาคารอัจฉริยะจะช่วยในการควบคุมดูแลการทำงานภายในอาคาร เช่น การระบายความร้อน, การปรับอากาศให้ถ่ายเท, ระบบควบคุมระบบให้แสงสว่างภายในอาคาร และการป้องกันความปลอดภัย อีกทั้งยังจะช่วยประหยัดพลังงานที่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย

Smart Infrastructure

                การพัฒนาและติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ในทุกพื้นที่ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการช่วยดูแลด้าน
ความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตของคนในสังคม


Smart Energy & Lighting

เป็นการนำเอาแนวคิดการพัฒนาระบบไฟฟ้าอัจฉริยะมาใช้บนท้องถนน ให้สามารถควบคุมผ่านระบบเซ็นเซอร์เพื่อเพิ่มลดแสงสว่างหรือปิดไฟบนท้องถนนโดยอัตโนมัติ โดยทั้งหมดขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการเคลื่อนไหวในบริเวณนั้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการลดใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

Smart Home

                การพัฒนาให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในที่อยู่อาศัยได้จากระยะไกล ผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องใช้ไฟฟ้าลัดวงจร หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจก่อให้เกิดปัญหาไฟไหม้แก่ที่อยู่อาศัยได้

Smart Public Services

                ระบบจอดรถอัจฉริยะที่จะพารถยนต์ของผู้ใช้บริการขับเคลื่อนไปสู่ที่จอดรถที่ใกล้เคียงสถานที่ปัจจุบันที่สุดโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้คนที่ต้องขับขี่บนท้องถนน

Smart Healthcare

                เป็นการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพ ที่จะคอยเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้สวมใส่อุปกรณ์ พร้อมกับช่วยวิเคราะห์และรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ส่งถึงแพทย์ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันเวลา

Smart Citizen

                นำเทคโนโลยีมาสร้างรากฐานสำคัญให้แก่ผู้คนในสังคม ให้สามารถนำเอาเทคโนโลยีไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อที่จะนำไปสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพลเมือง และถือกำเนิดเป็น พลเมืองอัจฉริยะ

                จากที่กล่าวมาข้างต้น แนวคิด Smart City ได้กลายเป็นแนวคิดที่หลากหลายประเทศชั้นนำทั่วโลกต่างกำลังให้ความสนใจและพร้อมผลักดันสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างแพร่หลาย เพราะหากเกิดขึ้นได้จริง จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ทุกคน ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบให้เข้าสู่ยุคสมัยเทคโนโลยีอย่างแท้จริง

การปฏิวัติครั้งใหญ่ของ Apple

จากบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาในโรงรถ จนถึงวันนี้แอปเปิ้ลได้กลายเป็นยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของวงการเทคโนโลยีเป็นที่เรียบร้อย โดยล่าสุดได้มีการจัดงานอีเว้นท์ใหญ่ขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อประกาศการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่จะปฏิวัติวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 โปรเจกต์ใหญ่ ดังนี้

Apple News+

ภายหลังการประกาศการอัพเกรด Apple News ให้กลายเป็น Apple News+ ได้สร้างกระแสให้เหล่าแฟนๆนิตยสารทั้งหลายต่างหันมาให้ความสนใจในทันที เนื่องจากได้มีการรวมเอานิตยสารชื่อดังต่างๆมากมายกว่า 300 เล่มมาไว้ใน
แอปพลิเคชันเดียว ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบนิตยสารแฟชั่น กีฬา เทคโนโลยี ก็มีพร้อมเสิร์ฟให้ผู้อ่านได้ทุกรูปแบบ แถมด้วยการนำเอาภาพเคลื่อนไหวมาเพิ่มลูกเล่นให้กับนิตยสาร หากใครนึกภาพไม่ออก ให้ลองนึกถึงหนังสือพิมพ์ในภาพยนตร์เรื่อง
แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่มีภาพเคลื่อนไหวให้รับชมขณะอ่านดูสิ ว่ามันน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน

โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ในค่าบริการรายเดือนเพียงแค่ 9.99 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อเดือน (ประมาณ 300 บาทไทย) แถมยังแชร์ค่าใช้บริการกับคนในบ้านหรือเพื่อนสนิทได้อีกด้วย

Apple Card

นี่คือก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทาง แอปเปิล ภายใต้การร่วมมือกับธนาคารในสหรัฐอเมริกา ที่ทางบริษัทจะเข้ามาให้บริการทางการเงิน ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบบัตรเครดิตและบัตรแบบดิจิตอล โดยมีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่การไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้งานทั้งค่าธรรมเนียมการใช้งานรายปี หรือค่าธรรมเนียมการใช้งานในต่างประเทศ โดยตัวบัตรจะใช้ระบบการชำระเงิน Mastercard แถมทุกครั้งที่รูดจะได้เครดิตเงินคืนถึง 2-3% โดยจะไม่ใช่การนำแต้มสะสมไปแลกสินค้าหรือบริการเหมือนกับผู้ให้บริการทางการเงินรายอื่นๆ ซึ่งการขยับตัวครั้งนี้ของทางแอปเปิ้ลได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับวงการธุรกิจทางการเงินเป็นอย่างมาก

Apple Arcade

บริการเกมที่มีให้เล่นได้เฉพาะแพลตฟอร์มของแอปเปิ้ลเท่านั้น โดยผู้ใช้บริการจะต้องเสียค่าใช้จ่ายแบบรายเดือน แลกกับการสามารถโหลดเกมได้อย่างไม่จำกัด อีกทั้งยังไม่มีโฆษณามาคอยกวนใจ โดยทางแอปเปิ้ลได้รวบรวมเหล่าผู้ผลิตเกมชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกมาสร้างเกมไว้ในมือคุณ เช่น  Bossa Studios, Cartoon Network, Konami, LEGO หรือ SEGA เป็นต้น โดยจะสามารถเล่นได้ทั้งระบบ IOS,  Mac หรือแม้กระทั่งบน  Apple TV


Apple TV
+

ถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของ Apple TV ที่ผู้ชมสามารถดูทีวีได้แบบที่ไม่มีโฆษณาคั่น โดยจะเป็นรายการหรือซีรีส์ของทางแอปเปิ้ลโดยเฉพาะรวมถึงยังมีรายการโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์อื่นๆให้สามารถรับชมได้หลากหลายผ่านทาง
Apple TV Channels ที่รวบรวมค่ายชั้นนำต่างประเทศไว้อย่างมากมายให้เลือกชมได้ในที่เดียวอย่าง HBO หรือ Showtime
เป็นต้น

เรียกได้ว่าจากการที่แอปเปิ้ลได้ทำการปรับทัพครั้งใหญ่นี้ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่วงการธุรกิจต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวงการนิตยสาร ทีวี เกม หรือแม้กระทั่งธุรกิจการเงิน ทำให้เกิดการจับตามองว่าการก้าวครั้งนี้ของทางแอปเปิ้ลจะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการธุรกิจได้มากน้อยเพียงใด

หุ่นยนต์รูดี้ คู่หูยุคใหม่ของผู้สูงวัยสายไอที

ในสังคมยุคปัจจุบัน เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการทำงาน หรือการอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้มีกลุ่มนักวิจัยและพัฒนาในหลายๆ ประเทศได้มีการนำมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้เทคโนโลยีเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงอย่างมากว่าจะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกอนาคต คงจะหนีไม่พ้นเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ที่กำลังอยู่ในกรณีศึกษาของหลายๆ ประเทศทั่วทุกมุมโลก

ล่าสุดทางสหรัฐอเมริกา  ได้มีการนำแนวคิดการพัฒนาชีวิตด้านความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ไปต่อยอดในการคิดค้นและพัฒนาหุ่นยนต์ ที่จะคอยช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้สูงอายุขึ้นสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยได้ให้กำเนิดหุ่นยนต์อัจฉริยะที่จะเข้ามาช่วยดูแลสังคมผู้สูงวัย โดยมีชื่อเรียกว่า หุ่นยนต์รูดี้

แนวคิดของการพัฒนา หุ่นยนต์รูดี้ นั้น เกิดขึ้นมาจากการเล็งเห็นถึงปัญหาในด้านการดูแลผู้สูงวัยที่เกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก เนื่องจากในหลายๆครั้ง บรรดาลูกหลานต่างก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูคนในครอบครัว หรือนำมาเป็นค่ารักษาเพื่อดูแลผู้สูงอายุ จึงทำให้ไม่มีเวลามากนักที่จะมาดูแลหรือคอยอยู่เป็นเพื่อนกับผู้สูงอายุได้ตลอดทั้งวัน

ดังนั้น หุ่นยนต์รูดี้ จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้โดยง่าย และราคาไม่สูงจนเกินไป โดยออกแบบให้มีคุณสมบัติที่จะสามารถพูดคุยสนทนาเพื่อคลายเหงา สร้างความบันเทิงและร่วมกิจกรรมต่างๆกับผู้สูงอายุ และยังสามารถคอยให้ความช่วยเหลือได้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ หุ่นยนต์รูดี้ จะคอยดูแลเรื่องเวลาการรับประทานอาหารและการทานยาอย่างเคร่งครัด ช่วยผู้สูงวัยในเรื่องของการจดจำพฤติกรรมในการวางของใช้ต่างๆภายในบ้าน อีกทั้งยังคอยช่วยจดจำตารางการใช้ชีวิตกับตารางการนัดหมายต่างๆ ของผู้ใช้งานอย่างแม่นยำโดยไม่ต้องมาคอยกังวลภายหลัง

คลิฟ กลายเออร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทที่คอยดูแลผู้สูงอายุในอเมริกา ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตัวเขาได้มีโอกาสพบกับกลุ่มทีมงานผู้คิดค้นและพัฒนา หุ่นยนต์รูดี้ จึงเกิดไอเดียในการนำหุ่นยนต์ที่จะช่วยดูแลผู้สูงอายุไปให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการ โดยมองว่า หุ่นยนต์รูดี้ จะสามารถช่วยในการฟื้นฟูสภาพจิตใจให้แก่ผู้สูงอายุได้เป็นอย่างมาก

นักธุรกิจหลายๆ คนอาจให้ความกังวลว่า หุ่นยนต์รูดี้ จะเข้ามาทำให้เกิดแข่งขันขึ้นในสายงานอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุและทำให้เกิดการตกงานเป็นจำนวนมากหรือไม่ แต่จริงๆแล้ว หุ่นยนต์รูดี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องการดูแลงานบ้านหรืองานที่มนุษย์ทำเลย แถมยังถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถช่วยเหลืองานของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

หากในอนาคตมีการนำ หุ่นยนต์รูดี้ ไปใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ประเทศ คงจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้มีสุขภาพชีวิตที่ดี ช่วยลดปัญหาการทะเลาะกันของคนในครอบครัว และยังช่วยให้ลูกหลานผ่อนคลายความกังวลในเรื่องของภาวะทางจิตใจของผู้สูงอายุ เพราะ หุ่นยนต์รูดี้ จะกลายมาเป็นเพื่อนของคนที่เรารัก จนบางครั้งเราอาจต้องกลายเป็นกังวลว่า ผู้สูงอายุอาจจะไม่ต้องการเรามาดูแลแล้วก็ได้

ปฏิวัติธุรกิจความงามด้วย เทคโนโลยีการสร้างภาพจำลองเสมือนจริง

ธุรกิจความงาม ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตทางการตลาดที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ การศึกษาหรือฐานะทางสังคมเป็นอย่างไร ต่างก็ต้องการสิ่งที่จะมาช่วยพัฒนารูปร่าง หน้าตา ภาพลักษณ์ภายนอกของตนอยู่เสมอ ยิ่งในปัจจุบันที่ได้มีการคิดค้น เทคโนโลยีการสร้างภาพจำลองเสมือนจริง อย่าง AR (Augmented Reality) สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย จึงถือเป็นการเปิดประตูไปสู่ยุคสมัยใหม่ด้านอุตสาหกรรมธุรกิจความงาม ให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถทดลองใช้สินค้าได้ด้วยตัวเองก่อนการใช้งานจริง

เทคโนโลยีการสร้างภาพจำลองเสมือนจริง เป็นเทคโนโลยีที่จะสร้างภาพจำลองขึ้นผ่านโปรแกรมออกมาในรูปแบบสามมิติ ซึ่งถือว่ากำลังได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะสามารถดึงดูดความสนใจให้แก่ทั้งกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการเนื่องจากจะทำให้ผู้ซื้อได้ทำการทดลองก่อนตัดสินใจ และทำให้เจ้าของกิจการไม่จำเป็นที่จะต้องเสียงบประมาณในการจ้างพนักงานเป็นจำนวนมากเพื่อมาให้คำแนะนำลูกค้าอีกต่อไป และด้วยความที่เป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้งานได้ในระยะยาว ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงทุนซ้ำซ้อน แถมยังช่วยให้ผู้มาเข้าใช้บริการ ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในการมาเลือกซื้อสินค้าได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

จริงๆ แล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นมาจากแนวคิดการสร้างแอปพลิเคชันเกี่ยวกับความงาม ที่มีให้ดาวน์โหลดใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชันออกแบบทรงผม ทดลองแต่งหน้า หรือแม้กระทั่งการจัดเครื่องแต่งกาย ที่มักจะได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งาน ทำให้ทางกลุ่มผู้วิจัยและคิดค้นเทคโนโลยี ใช้ไอเดียจากเรื่องนี้ในการเอามาปรับปรุงและนำมาพัฒนาให้เกิดเป็น เทคโนโลยีการสร้างภาพจำลองเสมือนจริง ที่เอาไว้ใช้กับกลุ่มธุรกิจความงามขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีดังกล่าว ยังจะมีส่วนสำคัญอย่างมากในอนาคตต่อการส่งเสริมการขาย และขยายธุรกิจของผู้ประกอบการ เพราะจะช่วยทำให้กลุ่มผู้สนใจผลิตภัณฑ์เกิดการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เทคโนโลยีการสร้างภาพจำลองเสมือนจริง จะช่วยในการวิเคราะห์สินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจในการเข้ารับการบริการมากที่สุด

และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ เทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริง ยังสามารถจดจำและเก็บสถิติการเข้าใช้บริการ เพื่อจัดความนิยมของผลิตภัณฑ์ เท่ากับว่ากลุ่มผู้ใช้บริการจะสามารถตามทันกระแสความนิยมในขณะนั้นได้ ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดี ทำให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนมีเพื่อนคู่คิดให้กับลูกค้าที่จะคอยให้คำปรึกษาที่ดีและสร้างเสริมความมั่นใจให้แก่ผู้มาขอเข้ารับการบริการอย่างแน่นอน

                จากที่กล่าวมาทั้งหมด คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีการนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วทุกมุมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้า และช่วยประหยัดเวลาในการตัดสินใจ แถมยังช่วยตัดปัญหาในเรื่องการให้บริการที่ไม่ดีของพนักงานในบางครั้งได้ เท่ากับว่าเราจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และเพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายใช้สอยโดยไม่ต้องกังวลไปกับการเดินตามหรือการกดดันจากพนักงานอีกต่อไป

ออฟฟิศแคปซูล มิติใหม่แห่งการทำงาน

หากพูดถึงการจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การดูแลลูกค้า การแก้ไขงาน หรือการปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้างาน คงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนอาจเลือกที่จะเข้าร้านกาแฟหามุมเงียบๆ บางคนอาจจะเลือกนั่งทำงานอยู่บนรถ หรือบางคนหากถึงคราวจำเป็นจริงๆ อาจถึงขั้นต้องเข้าห้องน้ำเพื่อแก้ไขงานหรือส่งอีเมลในขณะนั้น

                ซึ่งในบางครั้ง หลายๆ คนคงอยากที่จะให้มีสถานที่ที่สามารถอยู่เงียบๆ เพื่อนั่งทำงานได้อย่างมีสมาธิ ขอเพียงแค่มีโต๊ะเล็กๆ มี Wi-Fi หรือมีที่ชาร์จแบตเตอรี่ไว้คอยอำนวยความสะดวกก็เพียงพอ เพื่อที่จะได้สามารถทำงานได้อย่างใจจดใจจ่อ ดีกว่าที่ต้องไปนั่งทำงานท่ามกลางผู้คนมากมายจนไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้

แต่ถ้าหากมี ออฟฟิศแคปซูล ที่จะคอยให้บริการเราอยู่ตามที่สาธารณะล่ะ

                ล่าสุด ทางประเทศญี่ปุ่นได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้ และได้คิดค้นวิธีการแก้ไขปัญหาได้เป็นที่เรียบร้อย โดยได้มีการสร้าง ออฟฟิศแคปซูล ไว้สำหรับคอยรองรับกลุ่มคนวัยทำงานให้สามารถที่จะแวะเวียนมาใช้บริการได้ ซึ่ง ออฟฟิศแคปซูล ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ได้มีการเปิดให้ใช้งานตามสถานีรถไฟสายตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น 3 สถานี ได้แก่ สถานีชินางาวะ สถานีชินจูกุ และสถานีโตเกียว ซึ่งได้มีผู้ให้ความสนใจมากมายมาขอใช้บริการเป็นจำนวนมาก

                ภายใน ออฟฟิศแคปซูล จะมีสิ่งที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่การทำงานอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทำงาน, หน้าจอมอนิเตอร์, ที่ชาร์จแบตเตอรี่, Wi-Fi  สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังมีประตูกระจกที่ถูกสร้างขึ้นมาให้สามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีของผู้ที่มาเข้าใช้ โดยผู้ใช้บริการแต่ละคนสามารถทำเรื่องขอเข้าใช้ได้เป็นเวลา 30 นาทีในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการให้บริการแต่อย่างใด

                การออกแบบภายในของ ออฟฟิศแคปซูล จะมีลักษณะเป็นพื้นที่ห้องขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการเข้าใช้งานได้เพียงคนเดียว โดยออกแบบมาเพื่อให้กลุ่มคนที่ต้องการใช้ทำงานเร่งด่วนจริงๆ เท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจมีผู้มาใช้บริการผิดวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อนั่งรอ หรือ การนัดพบปะสังสรรค์ เป็นต้น

                โดยหากต้องการขอเข้าใช้บริการ จะต้องทำการเข้าไปลงทะเบียนก่อน และระบุสถานีที่ต้องการจะขอเข้าใช้บริการ ก่อนที่จะเลือกห้อง ออฟฟิศแคปซูล ที่ต้องการเข้าใช้ จากนั้นก็จะได้รหัสไปสแกนที่หน้าแคปซูล เพื่อปลดล็อกประตูและสามารถเข้าใช้บริการได้ทันที ซึ่ง ออฟฟิศแคปซูล จะเปิดให้ใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มในแต่ละวัน

               หากในภายภาคหน้า แนวคิดการสร้าง ออฟฟิศ แคปซูล ได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในแต่ละประเทศทั่วโลก คงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มคนวัยทำงานได้ไม่น้อย  เพราะในโลกที่ชีวิตเราทุกคนต่างต้องใช้เวลาไปกับการทำงานเสียเป็นส่วนมาก การมีออฟฟิศส่วนบุคคลในที่สาธารณะ จึงเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับคนทำงานอย่างแท้จริง