ภายถ่ายที่เป็นมากกว่าภาพทั่วไปด้วยระบบ AI

โทรศัพท์มือถือแทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำเนินชีวิตของคนหลาย ๆ คน จะเห็นได้จากการติดโทรศัพท์มือถืออย่างมาก จนไม่วางห่างจากตัวเลยทีเดียว มีหลาย ๆ คนบอกว่าถ้าลืมมือถือไว้ที่บ้านหรือที่ทำงานต้องรีบร้อนกลับไปเอามาเก็บไว้ข้างตัว จนแทบจะกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราเลยทีเดียว โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก รวดเร็ว นอกจากได้ยินเสียงแล้วยังสามารถเห็นหน้าได้แบบ Real Time ด้วย เราสามารถใช้โทรศัพท์มือถือในการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ทำงาน เรียนหนังสือ ค้นหาข้อมูล รวมกระทั่ง ทำธุรกรรมต่าง ๆ ทางธนาคาร และอีกฟังก์ชันหนึ่งที่มีความสำคัญ และได้รับความนิยมอย่างมากก็คือการถ่ายภาพ ด้วยความสะดวก และเทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงทำให้โทรศัพท์มือถือกลายมาเป็นกล้องถ่ายภาพประจำตัวของคนในยุคปัจจุบัน   

                การถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือจึงต้องมีการแข่งขันในการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพื่อนำมาเป็นจุดเด่นในการขาย มีการคิดค้นให้ทันสมัยเพิ่มขึ้นด้วยการนำระบบ AI มาใช้กับเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ระบบ AI หรือ Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์) คือ การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เท่าเทียมกับมนุษย์ ระบบ AI นี้ได้นำมาใช้กับโทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่เพิ่งนำมาปรับใช้กับฟังก์ชันการถ่ายรูป ทำให้ถ่ายรูปได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทัดเทียมกับการใช้กล้องของมืออาชีพเลยทีเดียว ด้วยเทคโนโลยี AI ที่มีประสิทธิภาพนี้ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ เพราะกล้องสามารถรับรู้ได้ว่าจุดไหนคือจุดเด่น และจุดด้อยบนใบหน้าเรา ก็จะเลือกปรับแสงของกล้องให้เหมาะสมที่สุด เพราะการถ่ายภาพในรูปแบบเดิมที่ไม่ได้ใช้ AI เมื่อมีการเลือกโหมดของการถ่ายแบบ Beauty ก็จะปรับให้ภาพออกมาดูเกินจริงจนหลอกตา หลาย ๆ ครั้งผู้ชายถ่ายภาพออกมาก็มีลักษณะผิวคล้ายกับผู้หญิง แต่ถ้าจะไม่ใช้โหมดนี้ภาพที่ถ่ายออกมาก็สมจริง แต่ไม่สวยงาม เรียกได้ว่าต้องเลือกระหว่างความสวยงามกับความเป็นธรรมชาติ แต่การถ่ายภาพด้วยระบบ AI นี้สามารถที่จะทำให้สองสิ่งที่เราต้องการออกมาได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ระบบ AI ในการถ่ายภาพ ยังสามารถปรับโหมดให้เข้ากับวัตถุหรือสิ่งของที่เราจะถ่ายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพคน สัตว์ สิ่งของ หรือวิว ก็สามารถทำได้เองโดยที่เราไม่ต้องปรับค่าให้ยุ่งยาก เรียกได้ว่าสะดวก ใช้งานง่าย เหมาะกับคนทุกเพศ และทุกวัยเลยทีเดียว

                AI ของกล้องถ่ายรูปกลายมาเป็นฟังก์ชันหลักอย่างหนึ่งในการพิจารณาเลือกซื้อมือถือสำหรับคนจำนวนมาก และเชื่อว่าระบบ AI นี้จะสามารถเปลี่ยนโลกของการถ่ายภาพให้ดีมากยิ่งขึ้น หรือสามารถพูดได้เลยว่ากล้องถ่ายรูปจะเป็นมากกว่ากล้องทั่วไป แต่เหมือนคุณจ้างช่างถ่ายภาพประจำตัวเดินไปกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณถ่ายรูป ในอนาคตอันใกล้นี้โทรศัพท์มือถือ จะกลายเป็นอุปกรณ์ข้างกายของคนทุกคน แบบไม่มีข้อสงสัยอย่างแน่นอน

เทคโนโลยี ความก้าวหน้าของมวลมนุษย์ ที่พร้อมจะเปลี่ยนโลกแห่งความจริง

โลกทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากมายจนแทบไม่ต้องการอะไรแล้ว แต่บางทีก็รู้สึกว่ามันยังขาดอะไรไปอีกนิด ๆ หน่อย ๆ ดังนั้นนักพัฒนาจึงยังไม่หยุดนิ่ง เหล่าคนสมองเพชรยังคงคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น กระชับเวลาลง แต่ประหยัดขึ้น ท่ามกลางความหวังที่จะพัฒนาสิ่งต่าง ๆ มากมายนั้น วันนี้เราหยิบยกเอาตัวอย่างเทคโนโลยีส่วนหนึ่ง ที่เราอาจจะพบเจอรอบ ๆ ตัวในอนาคตมาให้ดูกัน

แคชเชียร์อัตโนมัติ ต่อไปเราอาจจะหยิบของในร้านสะดวกซื้อแล้วชำระเงินได้เลย โดยไม่ต้องไปต่อคิวคิดเงินกับพนักงาน ไม่ต้องคอยตอบทุกครั้งว่าไม่เอาซาลาเปากับขนมจีบเพิ่ม ระบบนี้จะตัดยอดสินค้าจากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือบัตรเครดิตของเราเลย โดยญี่ปุ่นได้ทดลองระบบนี้ไปเมื่อปี 2016 และทาง Baidu ของจีนก็กำลังพยายามพัฒนาระบบนี้ขึ้นมาด้วยเช่นกัน

รถยนต์ไร้คนขับ ปลอดภัยขึ้นจนอุบัติเหตุเกือบเป็นศูนย์ คือสิ่งที่ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์แทบทุกเจ้ามุ่งหวังให้เกิดขึ้นจริง ในเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำเร็จเร็ววันเหมือนเทคโนโลยีอื่น ๆ แต่ด้วยความพยายามรวมทั้งเม็ดเงินมหาศาลที่ทุ่มลงไปกับโครงการรถยนต์ไร้คนขับนี้ แสดงให้เห็นว่าแต่ละเจ้าไม่ได้มาเล่น ๆ อย่างแน่นอน

การเติมสีให้รูปหรือวิดีโอขาวดำ เราอาจมีรูปหรือวิดีโอบรรพบุรุษ คนในครอบครัวที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ยุค 40 50 นี่คือฝันเป็นจริง ที่จะได้เห็นภาพถ่ายหรือวิดีโอคนสำคัญเหล่านั้นมีสีตรงตามธรรมชาติ มันอาจไม่ใช่เทคโนโลยีล้ำที่สุดแต่เป็นเรื่องของความรู้สึกล้วน ๆ แม้ทุกวันนี้จะมีการทำได้บ้างแล้วจากฝีมือศิลปินนักอัดขยายภาพ แต่การเติมสีลงไปในภาพมันให้ความรู้สึกต่างกัน เพราะไม่ทราบว่าสีนั้น ๆ เป็นสีที่แท้จริงในช่วงเวลานั้นหรือไม่ ด้วยเทคโนโลยีฉลาดล้ำในการจำแนกความโปร่งแสงวิเคราะห์ออกมาเป็นเฉดสีต่าง ๆ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าภาพถ่ายนั้น ๆ จะดูมีชีวิตขึ้นมาได้

AI สอนภาษา มันจะดีขนาดไหนที่เราจะสามารถเรียนภาษากับบอทได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอร์สแพง ๆ แถมมีภาษาหรือวิชาอื่น ๆ ให้เลือกเรียนมากมาย ลองคิดถึงเด็ก ๆ ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสได้มีคุณภาพการเรียนที่ดี สิ่งนี้คงช่วยได้เยอะทีเดียว คำว่าเทคโนโลยีย่อโลกให้แคบลงนั้น กรณีนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะเดินทางจากมุมหนึ่งของโลก ไปยังอีกมุมหนึ่งด้วยความเร็ว แต่ความเข้าใจระหว่างกันต่างหากที่ทำให้ช่องว่างและโลกนั้นแคบลง ถ้าผู้คนไม่เฉพาะคนไทยเราเท่านั้น แต่หมายถึงผู้คนทั่วโลกเรียนรู้ภาษาวัฒนธรรมระหว่างกันได้ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้

และนี่อาจจะเป็นตัวอย่างของสิ่งประดิษฐ์อีกอย่าง ที่พร้อมจะพลิกโฉมหน้าของโลกไปตลอดกาล ชนิดที่ว่าคุณอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เรื่องแบบนี้เทคโนโลยีจะทำให้เกิดขึ้นจริงได้

 

โลกยุคหน้า กับ ปัญญาประดิษฐ์

ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีในยุคนี้แล้วนั้น นวัตกรรมอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) คงเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงอย่างแน่นอน แล้วปัญญาประดิษฐ์คืออะไร ปัญญาประดิษฐ์เป็นการจำลองการทำงานของสมองมนุษย์ เป็นการพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ ความคิด การกระทำ หลักตรรกศาสตร์ เหตุและผลในการตัดสินใจต่าง ๆ ให้กับเครื่องจักรกล ดังนั้น ปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการพัฒนามากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จะสามารถสร้างโอกาสได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

ปัญญาประดิษฐ์ เปลี่ยนชีวิต

ทุกอย่างในโลกนี้ก็เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน นั่นคือ สามารถก่อผลลัพธ์ได้ทั้งในด้านบวก และด้านลบ ในด้านบวก  การประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องหยุดพัก ทั้งยังสามารถอัพเกรดหน่วยความจำเพื่อการทำงานที่เร็วขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ย่อมนำมาซึ่งประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น แม่นยำขึ้น รวมถึงซับซ้อนมากขึ้นด้วย และที่สำคัญ หุ่นยนต์มีอัตราความผิดพลาดต่ำกว่ามนุษย์

ความน่าตื่นตาตื่นใจของเจ้าปัญญาประดิษฐ์นี้เอง ที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามขึ้นมาว่า AI จะมาแทนที่มนุษย์มากน้อยเพียงใดในปัจจุบันและอนาคต อัตราการจ้างงานคงจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด งานหลายประเภทที่หุ่นยนต์สามารถแทนที่มนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ อาทิ แคชเชียร์ตามร้านค้า พนักงานทำความสะอาด คนขับรถ หรือพนักงาน call center และอื่น ๆ

จริงอยู่ที่บางสาขาอาชีพที่ AI คงจะยังไม่สามารถมาแทนที่ได้ในเวลาอันใกล้นี้ เช่น จิตแพทย์ นักแสดง นักข่าว ไม่ใช่ว่า AI ไม่สามารถพัฒนาไปถึงจุดที่ฉลาดมากพอจะทำสิ่งเหล่านั้นได้ เพียงแต่ ในเรื่องของความรู้สึก ความเห็นใจ การเอาใจเขามาใส่ใจเขา ความต้องการ หรือการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลอันมาจากสัญชาตญาณและหัวใจ ไม่ใช่สมอง ยังคงต้องมาจากมนุษย์นั่นเอง

มนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรเพื่ออยู่ร่วมกับ AI               

อันที่จริงแล้ว การที่เทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาพัฒนาเพื่อทำงานร่วมกันกับมนุษย์นั้น จะก่อประสิทธิภาพได้มากกว่า มนุษย์ทำงานอย่างเดียว หรือ AI ล้วน ๆ ทำงานอย่างเดียว

การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเครื่องมือช่วยทำงานบางส่วนแทนมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์เราสามารถใช้เวลาที่มีอย่างจำกัดนั้นอย่างเกิดประโยชน์มากขึ้น มนุษย์ใช้เวลาไปกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทดลองทางเลือกใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ปัญญาประดิษฐ์ยังช่วยในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถจัดกลุ่ม หาแบบแผนของข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ช่วยทำให้การคำนวนต่าง ๆ การคาดคะเนผลลัพธ์อย่างมีเหตุผล การสร้างทางเลือกหรือข้อเสนอที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมนุษย์ยังสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในการเรียนรู้ อุปสรรคด้านภาษา การแลกเปลี่ยนความคิดกันในหมู่หมนุษย์และเหล่าปัญญาประดิษฐ์ทั้งหลาย ยังแต่จะทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาบนโลก และประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เมื่อนั้น มนุษย์จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาศักยภาพของตนเองยิ่ง ๆ ขึ้นไป

4 เทรนด์เทคโนโลยีในยุค 2018 ที่ต้องอัพเดตให้รู้ก่อนใคร

เทคโนโลยีเป็นอะไรที่หมุนแปลเปลี่ยนไปไวมาก ๆ เพราะมนุษย์มีความฉลาดล้ำที่จะคิดค้นและประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ มากมายขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต และทำให้การใช้ชีวิตนั้นมีความง่ายดายมากยิ่งขึ้น

Continue reading